2554-05-23

คลายเครียดกับเพลงกันบ้าง ... วง SCANDAL (J-POP)

กลับมากันอีกคร้ั้งครับผม ช่วงนี้ขอพักคลายเครียดกันซักนิด ... กล่าวคือ ระหว่างที่กระผมเดินในงานคอมมาร์ทมานั้น ก็ไปเห็นซุ้มๆ นึงดันไปเปิดวงดนตรีทางฝั่งญี่ปุ่นเพลงนึงเข้า ด้วยความเป็นคนค่อนข้างบ้าเพลงญี่ปุ่น หรือ J-Pop ในสายเลือด ดันไปสะกิดหูผมเข้า เลยเอามาวีดีโอ PV มาฝากให้หลายๆ ท่านได้ชมกันพอหอมปากหอมคอ ...

โดยวงนี้ประกอบไปด้วยสาวๆ 4 คนครับ อาทิ :)

1. Haruna Ono (vocals, guitar)
2. Tomomi Ogawa (bass, vocals)
3. Mami Sasazaki (guitar,vocals)
4. Rina Suzuki (drums,vocals)

ส่วนรายละเอียดไปดูกันได้ทางเว็ปนี้ได้ครับ จิ้มเบยแจ้


Song Name: Pride




Song Name: Haruka




Song Name: CUTE

2554-05-20

รีวิวบรรยากาศ งาน Commart Thailand 2011 วันแรก แบบชิวๆ

กลับมากันอีกเช่นเคยกับกระผม นาย @chiisaii ครับ คราวนี้ได้มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศงานคอมมาร์ทซีมาร์ท 2011 หรือ ComMart CeMart 2011 ซึ่งจัดอีกเป็นครั้งที่ 2 จากครั้งแรกเมื่อ เดือนมีนาคม เลยจะเอามารีวิวแบบชิวๆ มาให้ทุกท่านได้ชมกัน งานนี้จัด 4 วันรวด ตั้งแต่วันที่ 19-22 พฤษภาคม. .. สำหรับหลายท่านที่สนใจ ก็อย่าลืมแวะไปงานนะครับ เพราะมีทั้งเกมส์ให้เล่น พร้อมรับของรางวัลสนุกๆ บวกสินค้าไอทีต่างๆ ราคาสุดคุ้มจริงๆ ครับ


โดยส่วนตัวที่ตั้งใจมาในงานนี้ เพราะอยากอัพเดทข้อมูลนิดหน่อย และทดแทนที่ไม่ได้ไปงานคอมมาร์ทเมื่อเดือน มีนาคม อีกด้วย งานในวันแรกโดยภาพรวมคนยังไม่ค่อยเยอะช่วงบ่ายๆ แต่จะมาแน่นพอประมาณกันอีกทีช่วงเย็นๆ ครับ (เพราะเลิกงาน) เรามาดูรูปบรรยากาศในงานกันดีกว่าครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างกันดีกว่า :)


นี่คือทางเข้าด้านหน้างานครับ จะมีป้ายใหญ่ๆ โชว์ แล้วถัดทางขวามือ จะเป็นประตูทางเข้า




เข้างานปุ๊บก็แจก โบร์ชัวร์ปั๊บ !!!




หลังจากเข้างานถัดทางขวามือ ก็มีเวทีกลางให้นั่งพักไปก่อน เผื่ออาจจะมีกิจกรรมบนเวที




เลี้ยวซ้ายเจอ "ซาเล้ง" ... เอ้ยยย เจอ iStudio พอดีเบยครับแจ้ ... ร้านของเหล่าคนรัก Mac (ไม่ใช่ Mc Donald นะเธอว์)




อยู่ในงานก็เล่นกันเพลินๆ ไปกับ iPad 2 ... เอาแต่ จิ้มๆๆๆๆๆๆ อยู่ตรงนั้น ลองเล่นจริงๆ จังๆ ทีนึง ขอบอกเลยครับ Chip A5 เนี่ย สวดยวดไปเลย :)




แล้วก็ลองเล่น App ที่ชื่อ Zen Brush ซะหน่อย ... โหลดได้ทั้ง iPhone & iPad แต่เล่นบน iPad มันส์กว่าแฮะ ... ลองแปลตามรูปกันเองนะครับ ฮี่ๆๆๆ




แล้วก็หันแว๊ป มาดูป้ายราคา ... เอ้าชิป !!! ไม่เห็นจะมีโปรโมชั่นตรงไหนเลยอ่าาาา ... มีแต่ผ่อนจ่าย 0% ตามบัตรที่ระบุครับ (มุมบนขวามือ)




เรียกน้ำย่อยไปกับ Mac แล้ว ... มาแว๊ปกันที่ ซุ้ม True ด้านนอกบ้าง โปรโมชั่นปกติ iPhone 4 สีขาวกะลังจะหมด เย้




มาซุ้มนี้เห็นคนน้อยๆ ไม่ค่อยเข้ามาดูกันเท่าไหร่ เพราะมันเป็นสินค้าของ A-Net รับติดตั้งระบบ Cloud Computing ให้กับ องค์กรฯ แบบเก็บรายเดือนครับ ... อย่าเบื่อกันซักก่อนนะครับ เผื่อมีประโยชน์กับผู้ใหญ่ที่อยากจะใช้ระบบนี้มาทำมาหากินกันจิงๆ จังๆ




จากนั้น ... เราก็เดินดุ่มๆ เข้ามาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณทางเข้า Hall Event Zone สังเกตุป้ายนี้ไว้นะครับ




แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไป ดันมาเหลือบมองเจ้าเครื่องนึงเข้า ... โอ้ววว Acer A-500 ICONIA ... Android Honey Comb 3.0 ซะด้วยย ราคาโปรโมชั่นที่ 15,900 บาท เท่านั้น !! (เฉพาะรุ่น WiFi แต่ใจจริงเราแอบมอง Galaxy Tab 10.1" อยู่ อิอิ)




แวะหน้างานกันอีกกับทางฝั่ง Sony VAIO ดูเป็นปรกติเช่นเคย ไม่ค่อยมีอะไรอัพเดทเท่าไหร่




ในที่สุดก็ได้เข้ามาในงานซ้ากกกที ... เจอป้าย Acer ตัวเบ้อเริ่ม




แล้วก็มากันตรงซุ้ม Dell ไปตอบคำถามเค้าได้ของรางวัลมาด้วย (Dell Streak แจ่ม !!)




มาทางด้าน ASUS กันบ้าง โปรโมชั่น Netbook Notebook กันอย่างจุใจ แต่เราเบื่อแว๊ววว ... สนใจ Tablet อุอุ




แต่นึกว่าจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจซะแล้วสำหรับ ASUS ดันเหลือบไปเห็น VDO File Player เข้า เป็น Box เอาไฟล์โหลดจากที่ไหนก็ได้ใส่ Thumb Drive หรือ Memory Card เสียบปุ๊บ ดูได้ปั๊บ ชัดแจ่มจริงๆ




ฮั่นแน่ๆ ชอบช่าม๊า ... เจอ Pretty ประจำซุ้ม ASUS อีกด้วยน้า ...




ถัดไปฝั่ง Toshiba บ้าง ก็ส่วนใหญ่จะปรกติ โปรโมชั่นเล็กน้อย สำหรับ Notebook Netbook แต่ดันสะดุดตาในโบรชัวร์ กับเจ้าเครื่องๆ นึง คล้ายๆ กับ Nintendo DS จริงๆ






ตรงนี้เป็นซุ้ม Lenovo ครับ ก็มาแข่งกันลดอีกจ้าว สงครามโละของ Netbook Notebook กำลังจะแรงขึ้นทวีคูณ ... โอ๊สสส




เดินไปๆ มาๆ ดันไปสะดุดตากับ เจ้า HTC Incredible S ของทางซุ้ม HTC มั่ง ลองเล่นแล้ว แจ่มมากมาย ... แต่คนขายเชียร์ให้เล่น WP7 เห็นบอกมาแว่วๆ ว่า เหลือ 2 เครื่อง เมื่อวาน 9,900 สำหรับ รุ่น HD7 จาก 12,900 สงสัยจะหมดจิงๆ ซะแล้วนะเนี่ย (เกือบจะสอยซะแล้ว)




มาทางฝั่ง IT CITY บ้าง ก็มีหลายๆ ค่าย ปะปนกัน แต่รู้สึกจะเน้นไปทาง Harddisk นะครับ




จะว่าไปเดินอ้อมมาทางด้านริมบ้าง เจอกระเป๋าและอุปกรณ์ลดราคาของทาง BELKIN ครับ ใช้กับ MacBook Pro เนี่ย แจ่มเลยนะเนี่ย






ถัดมาจะเป็นทางเรื่องของ Security บ้าง อาทิ Kaspersky Anti Virus กับ TREND MICRO ระบบ Cloud Security ป้องกันข้อมูลถูกขโมยบน Server






ถัดมาก็เจอซุ้ม TRUE กันอีกแร๊ววว ... มีขนจำพวก Smart Phone และ Tablet ที่พวกเราคุ้นตากัน




แล้วอีกสิ่งนึงที่น่าสนใจคือ โต๊ะระบบ Muti-Touch หรือ Microsoft Surface ที่เป็นระบบนำเสนองานในที่ประชุม โดยใช้ปลายนิ้วสัมผัส ... สนนราคาที่ 380,000 กว่าๆ อะจ๊ากกก !!




ชมงานข้างในกันหอมปากหอมคอแล้ว มาสูดอากาศข้างนอกบ้าง ออกมาปุ๊บ เจอ Samsung TV ลดราคากัน ... (ที่ยอมถ่าย เพราะสาวสวยในจอ ฮาๆๆๆ)




มาดูภาพรวมกันตรงทางฝั่งด้านนอก Hall Event Zone บ้าง ... ก็มีหลายๆ ร้านให้น่าชม ราคาประหยัดอยู่ ... แต่ชอบแก๊งค์ Banana IT ข้างล่างเลย อิอิ






เดินเสร็จกลับถึงบ้าน เหนื่อยดี แต่สนุกครับ ... ตัวกระผมก็ได้ของรางวัลที่เล่นเกมส์ในงานตามนี้ (โปรดอย่าสะดุดตาตรงกลางนะจร้า)




แล้วตามมาด้วยของที่ซื้อมาในงาน อาทิ External Harddisk Seagate 500 GB สำหรับเอาไป Back up กับ Time Machine บน MacBook Pro และที่ชาร์จไฟสำรองช่วยเหลือ iPhone 4 2,000 mAh




เท่านี้ก็จุใจกันแล้วใช่ไหมครับ ว่าจะไปเดินต่อกันอีกรอบวันอาทิตย์ที่ 22 นะครับ โดยสรุปแล้วงานนี้ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ เพียงแต่เมื่อเดือนมีนาคม ผมไม่ได้ไป ก็เลยสรุปไม่ได้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ถ้าเปรียบกับปีที่แล้ว มันไม่ค่อยจะหวือหวาซักเท่าไหร่น่ะครับ แต่กระผมเชื่อว่า วันอาทิตย์น่าจะคนเยอะพอดูเลยทีเดียว ... แล้วพบกันใหม่นะคร้าบบ สวัสดีครับ :)

2554-05-15

รีวิว Macbook Pro (MBP) ฉบับ เรียกน้ำย่อย ... น้ำลายสอ ...

จากเมื่อวานเรื่อง ข่าว Cloud ก็จบลงไป (แต่สถานการณ์ ยังแค่เริ่มต้น) กระผม นาย @chiisaii ขอนำเสนอ Macbook Pro หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า MBP ที่หลายๆ ท่าน ก็อยากจะจับเป็นเจ้าของกันเหลือเกิน พอดีผมก็อยากลองหันไปใช้ Mac เผื่อทำอะไรต่างๆ จะได้สดใสขึ้นบ้าง เพราะจมปลักอยู่กับระบบปฎิบัติการ Windows ของ ลุงบิล เกตส์ มานานกว่า 20 ปี ... และต้องขอยอมรับความจริงอยู่อย่างนึงคือ กระผมเพิ่งหัดใช้ Mac เป็นครั้งแรกเลยล่ะครับ 555+


มาจนถึงวันนี้ ก็ยอมรับครับว่า เป็นบุญตาจริงๆ (เพราะโปรโมชั่นเงินผ่อนแท้ๆ) ที่ได้สัมผัสระบบปฏิบัติการอีกตัวที่ ลุงจ็อบส์ ได้นำเสนอเอาไว้ใน Macbook หรือที่เราเรียกกันว่า MacOSX (Snow Leopard) และต่อไปคิดว่า จะเอาเครื่องนี้เผื่อทำมาหากินในเรื่องของ พัฒนา App ทั้ง iPhone และ Android ในเครื่องเดียวกันอีกด้วยครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ของเค้าดียังไงกันบ้าง ทำไมคนเค้าถึงฮือฮา ทั้งกล่อง อุปกรณ์ ตัวเครื่อง รวมไปถึงการบริการอันอบอุ่นจากทางร้าน iStudio สาขา Seacon ในประเทศไทย ต้องยอมรับครับว่า ทำได้น่าประทับใจลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าที่นี่จริงๆ ครับ :)


***ขอหมายเหตุนิดนึงครับ เครื่องที่ผมซื้อมานั้น จะเป็นรุ่นล่าสุดที่ ลุงจ็อบส์ เค้านำเสนอตัว Minor Change ไปเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พร้อมกับเปิดตัว iPad 2 และวางจำหน่ายในไทย เมื่อเดือน เมษายน นั่นก็คือ หน้าจอ 13.3" Duo Core i5 RAM 4GB Harddisk 320 GB นะครับ


เริ่มแรกก็มากันถึงเรื่องตัวกล่องกันดีกว่า ทำได้กระชับ สมราคา และคำล่ำลือ




หันกล่องมาดูกันอีกข้างครับ จะมีรูป Macbook อยู่ตรงกลางกล่อง




ถัดมาดูด้านข้างกันให้เห็นชัดๆ ครับว่า มันเป็น Core i5




แล้วก็ได้ฤกษ์ ทำการแกะกล่อง โอ้วววว ... ชาบู ๆๆๆๆๆๆ




ยกตัวเครื่องออกมา แล้วก็เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน อาทิ แผ่น Mac OSX โปรแกรมต่างๆ คู่มือ รวมไปถึงสายชาร์จที่แถมให้




เริ่มมาดูกันที่สายชาร์จกันก่อน เป็นระบบแบบแม่เหล็ก ดูดติดกับตัวเครื่องเวลาชาร์จไฟ




ต่อด้วย คู่มือ แผ่น Mac OSX และ แผ่นโปรแกรมต่างๆ ที่แถมมาให้




อันนี้ ก็เป็นตัวสายชาร์จ ต่อยาวจากตัว Adapter ครับ




ส่วนอันนี้จะเป็นการประกอบกับตัวหัวเสียบ แบบสายสั้นๆ ใช้กับเสียบปลั๊กในระยะใกล้ครับ





กลับมาดูที่เจ้าตัว MBP กันต่อครับ สภาพอยู่ในห่อเป็นอย่างดี




พลิกกลับมาดูด้านล่างกันบ้างครับผม




หลังจากแกะห่อกันแล้ว เราก็มาเริ่มเปิดเครื่องกันเลยครับผม (ตื่นเต้นๆ)




วิธีเปิด ทางร้านเค้าสอนมาว่า ... ให้เอามือหงายขึ้นเปิดฝาได้เลยนะลูก เครื่องมันไม่คว่ำหกคะเมนไปไหน (ต่างกับ Laptop ปกติจม เปิดทีหกคะเมนทุกครั้งไป) ... เราฟังทางนี้แล้วก็ เอ้าฮึบ ... 1 .... 2 ... เปิด !!!






หลังจากเปิดเครื่อง แล้วก็มากด Switch ตรงมุมบนด้านขวา ... โอ๊สสสสส !!!




แล้วในที่สุด รอสัก 3 วิฯ ก็เข้าสู่หน้า Desktop ของเจ้า Mac OSX เป็นอันเรียบร้อย โรงเรียนจีน :)




เท่านี้ก็ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยไปก่อนครับ และบทความฉบับนี้ก็เป็นฉบับแรกที่เขียนบน MBP ซะด้วย ... ส่วนเรื่องคำสั่ง ตอนใหม่ๆ ก็ยังใช้งงๆ อยู่ แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ กะคำสั่งที่ร้านเค้าสอน กลับเริ่มง่าย และทำงานได้ทันใจดีครับ ... เผื่อบทความหน้า เดี๋ยวจะมาต่อกันเรื่องคำสั่งพื้นฐานใน Mac เผื่อบุคคลเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนใจมาใช้ Mac ก็จะเอามากล่าวกันต่อไป ... พบกันใหม่กับผม นาย @chiisaii สวัสดีครับ :)

2554-05-14

มารีวิวข่าว Cloud กันซะหน่อย ...

สวัสดีครับ พบกับกระผมนาย @chiisaii กันอีกครั้ง บางทีก็อาจหายหน้าหายตาไปบ้าง (เจอกันได้ในทวิตเตอร์) เพราะงานยุ่งบ้าง แต่ใจก็ยังรักที่จะเขียน Blog อยู่เช่นเคย ... มาคราวนี้ ก็อยากจะมีสิ่งดีๆ มาว่ากล่าวกันนิดหน่อยครับ เห็นหลายๆ ท่าน ก็คงตื่นตาตื่นใจไปกับนวัตกรรม และสงคราม มือถือ และ แท็ปเล็ต ที่ร้อนระอุในช่วงนี้ แต่ก็แน่นอนอีกเช่นกันว่า ยังมีอีกเรื่องที่หลายท่านยังไม่ทราบ และสงสัยกันพอสมควรเลยทีเดียว เพราะไม่ได้เห็นด้วยตาเปล่าง่ายๆ แต่เป็นผลมาจากนวัตกรรม พกพา ของพวกเราเนี่ยแหละครับ ที่กำลังจะบอกกล่าวกันไป ซึ่งนั่นก็คือ เจ้า Cloud เนี่ยแหละครับ ... เดี๋ยวเรามาขยายบทความกันต่อว่า เจ้าเนี่ยมันหมายถึงอะไรกันแน่


เรื่องของเจ้า Cloud หรือ ภาษาเพื่อนบ้านเค้าเรียกกันเต็มๆ ว่า Cloud Computing กล่าวคือ เป็นการจัดเก็บข้อมูลบนกลุ่มก้อนเมฆ แทนที่จะเอาไว้อยู่เน้นกับตัวบุคคล เพียงอย่างเดียว (พูดง่ายก็คือเก็บใน Notebook, Thumb Drive, หรือ ไม่ก็เจ้า External Harddisk เนี่ยแหละครับ) เจ้าก้อนเมฆดัังกล่าว สามารถทำให้เรารับส่งข้อมูลได้ทุกประเภทจากที่ไหนก็ได้ โดยผ่านทาง เจ้าอุปกรณ์ 3 ประเภท คือ Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) Platform (ระบบปฏิบัติการ) และ Software (โปรแกรมต่างๆ) ... โดยเจ้า Cloud ในช่วงแรกๆ ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆ อย่างพวก Geek หรือบุคคลากรที่ฝักใฝ่ใน I.T. หรือโลก Cyber เป็นอย่างดี และกลุ่มคนพวกนี้ยังใช้สิ่งนี้เป็นระบบปิด โดยให้บุคคลในวงการได้เช่าพื้นที่ในการเก็บข้อมูลแบบนี้ แล้วเก็บรายเดือนแทน


แต่พอหลังจากเจ้างาน Google I/O 2011 ที่เปิดตัวในปีนี้ (10-11/05/2011) เป็นครั้งที่ 4 (ตั้งแต่ปี 2008) ก็ได้เริ่มผลักดันไอ้เจ้า Cloud ออกสู่ตลาด End user อย่างพวกเรา ได้ใช้งานอย่างจริงจัง และแถมยังให้พวกเราใช้ "ฟรี" ซะด้วย ... ซึ่งก็น่าตกใจอยู่เหมือนกันว่า ทำไมเจ้า Google ถึงได้ใจปล้ำให้เราได้ใช้ของๆ เขาได้เต็มที่ขนาดนี้ โดยที่ไม่ต้องเสียอะไรซักแดงเดียว แต่โดยลึกๆ แล้ว ก็ต้องยอมรับครับว่า รายได้หลักของเค้าอยู่ที่ โฆษณา ล้วนๆ และยังทำตัวเป็นเจ้าพ่อรายใหญ่แห่งวงการ Search Engine ซะด้วย ... ซึ่งเรื่องแบบนี้ เจ้า Google ได้เริ่มทำเรื่องนี้มาตั้งแต่เปิดให้ใช้บริการ G-Mail ก่อนในช่วงแรก (ราวๆ ปี 2004) และก็ได้เพิ่ม Feature ต่างๆ เข้าไปๆ จนกระทั่งเกิดมาเป็น Google Doc ยังไม่พอ ยังมีให้โหลดรูปภาพแบบ Picasa ให้เราเอาไปแชร์กับเพื่อนๆ ได้อีก ... อีกทั้งยังมีการแอบเปิดตัวเจ้าระบบปฏิบัติการ Android อย่างเงียบๆ จนกระทั่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2008 โดยช้ากว่า ลุงจ๊อบส์ หน่อยนึงเท่านั้นเอง


โดยภาพรวมของเจ้า Cloud มาทั้งหมด ถ้าจะให้พูดแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ เอาข้อมูลไปเก็บบน Server แล้วก็สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่เราที่ไหนก็ได้ ... ซึ่งมันเป็น Concept ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ... แต่แท้จริงๆ แล้ว มันสะดวกสบายมากมาย โดยเราสามารถเดินตัวชิวๆ เข้าไปนำเสนองาน และก็หยิบข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ มาใช้บนคอมที่สำนักงานนั้นๆ ... มันคงดูเท่ห์ไม่หยอกเลยทีเดียวเลยล่ะครับ แถมปัจจุบันนี้ มีระบบสื่อสารแบบไร้สาย รวมไปถึงการจุติขั้นเทพอย่าง Smart Phone ยิ่งทำให้ระบบ Cloud ใช้ได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะถือเป็นการประหยัดพื้นที่ใน Smart Phone ไปในตัว โดยเพียงแต่เรียกโหลดจาก Server มาเปิดก็เท่านั้นเองครับ


แต่ข้อเสียของเจ้านี่ก็มีนิดหน่อยครับ ในเรื่องของการที่ไม่มีสัญญาณไร้สาย หรือเครือข่ายพวก Network มาต่อกับ Server ... ระบบ Cloud ก็จะกลายเป็น ก้อนเมฆดำๆ ก้อนนึงในบัดดล เพราะไม่สามารถเรียกใช้ข้อมูลดังกล่าวขึ้นมานำเสนอได้ ... แถมยังมีเรื่องของ Security โดยที่เราเอาข้อมูลส่วนตัวไปฝากไว้กับ Cloud แต่วันนึงดันซวยเข้า ไปเจอ Hacker มือฉมัง แอบเอารูปส่วนตัวเราไปขาย หรือเอาไปตัดต่อลงโน่นลงนี่บ้าง ... ซึ่งสาวสวยหลายคนที่ชอบฝากรูปเยอะๆ ก็ระวังตัวกันนิดนึงนะครับ เพราะระบบบางทีก็ไม่ค่อยเสถียร 100% เช่นกันเลยทีเดียว


ซึ่งที่กล่าวมาก็อย่าไปคิดมากนะครับ มันยังเป็นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ และก็เคยเกิดมาบ้างแล้ว ... แต่ทีนี้ที่ได้เขียนบล็อกหัวข้อนี้ขึ้น ก็อยากจะนำเสนอหนังสือเล่มนึงเกี่ยวกับ Cloud ในแง่ของ Business ซึ่งตัว Text ที่เขียนขึ้นนั้น จะออกไปเชิง Business มากกว่า Technician ... สามาถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย (ที่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้) โดยหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "A Quick Start Guide to Cloud Computing - Moving your business into the cloud" โดย "Dr. Mark I Williams" ... ซึ่งหัวข้อหลักๆ ในหนังสือก็จะกล่าวตั้งแต่ความหมายของ Cloud Computing, ผลประโยชน์ของเจ้า Cloud, ความเสี่ยง, Case Studies, การจัดหาผู้ให้ระบบเช่า Server, จนวิธีการที่เราจะเปลี่ยนจากระบบเดิมๆ เข้าไปสู่ Cloud ได้อย่างไร ... ซึ่งยอมรับว่า หนังสือเล่มนี้ ได้อธิบายค่อนข้างอ่านง่าย ไม่ซับซ้อนมากมายเลยล่ะครับ และผู้อ่านท่านอื่นที่สนใจ ก็ไม่ได้เจาะจงไปในกลุ่มของ I.T. เพียงอย่างเดียว แต่เป็นภาพรวมของ Business ครับว่า Cloud สามารถส่งเสริมไปยัง Business ได้อย่างไร โดยเจ้าหน้าปกก็จะประมาณนี้ครับผม :)


ตัวอย่างหน้าปกของหนังสือครับ




แล้วส่วนนี้จะกล่าวถึงโครงสร้างของหนังสือว่า ในแต่ละบท ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง




โดยหนังสือดังกล่าวสามารถไปหาซื้อได้ที่ Amazon.com ครับผม ... แล้วพบกับกระผม นาย @chiisaii ในบทความหน้าได้ใหม่ สวัสดีครับ :)