2554-08-17

รีวิว Tesco Lotus Distribution Center Field Trip แบบเล่าเรื่อง

สวัสดีกันอีกครั้ง กับกระผม นาย @chiisaii ครับ ช่วงนี้ก็เริ่มมีงานเข้ามาเพิ่มบ้าง เลยอาจจะขอเขียนอะไรรวบรัดให้สั้นลงกันซะเล็กน้อยนะครับ


โดยในวันนี้ กระผมก็ได้มีโอกาสไปกับคณะนักศึกษา และอาจารย์ ไปทัศนศึกษา หรือ Field Trip ณ ศูนย์กระจายสินค้า เทสโก้โลตัส สาขา สามโคก-ปทุมธานี (Tesco Lotus Distribution Center, Samkok-Pathumtani branch) ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2554 ซึ่งจัดโดยภาควิชา บริหารธุรกิจระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Business Information Systems, Martin de Tours, Assumption University Thailand) โดยงานนี้มีวัตถุประสงค์ จัดขึ้นเพื่อไปศึกษาเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีที่เอาไปประยุกต์ใช้ในระบบ Logistic ครับ :)





หมายเหตุ: ในสถานที่ดังกล่าวเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปรอบบริเวณครับ เลยขอใช้เป็นการเล่าเรื่องโดยสังเขปแทน ...


โดยเริ่มแรกก็ได้เดินทางมาจากวิทยาเขตหัวหมาก ตั้งแต่เวลา 11:30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. กว่าๆ ก็ถึงสถานที่ดังกล่าวแล้วครับ


พอมาถึงสถานที่ปุ๊บ ก็มีการให้ลงชื่ิอและเวลาไว้ก่อนเข้า และจะมีแจกบัตร Visitor รวมไปถึง ใบคู่มือปฏิบัติ ในสถานที่เข้าชมอีกด้วยครับ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อทั้งผู้มาเยี่ยมชม และพนักงานเอง


จากนั้นก็เดินขึ้นบันใดเข้ามา ถึงห้องรับรอง โดยจะมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ เป็นผู้บรรยาย และดูแลคณะเราตลอดงานครับ


ในระหว่างการบรรยายนั้น ผมก็ได้ความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับเทสโก้เองว่า สาขาทั่วประเทศเค้าตอนนี้มีทั้งหมด 875 แห่งแล้วครับ แต่ศูนย์กระจายสินค้าจริงๆ นั้น มีเพียง 125 แห่งเท่านั้น เท่านี้ฟังแล้ว ก็ตกใจพอสมควรเลยครับ เพราะถือเป็นความรู้ใหม่ที่ได้รับไปเต็มๆ เลยทีเดียว


โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของศูนย์กระจายสินค้าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยสาขาแรกอยู่ที่ อยุธยา วังน้อย แล้วต่อมาก็ตามมาด้วย บางบัวทอง สามโคก และลำลูกกา โดยสาขาสามโคก เปิดเมื่อปี 2008 ซึ่งก็นับได้ราวๆ 2 ปีกว่าแล้วล่ะครับ


จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เล่าต่อครับว่า สาขานี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2500 ตร.ม.
มีผู้ผลิตมาติดต่อ 400 เจ้า มีรถขนส่งรองรับกว่า 500 คัน มีหน่วยจัดเก็บสินค้ากว่า 7500-10000 ที่ รวมไปถึง ล็อตของที่เก็บกว่า 350000-400000 กรณี และรถวนเวียนส่งของกว่า 160-170 เที่ยวต่อวัน


และในสาขานี้เองได้มีคลังสินค้าเก็บกว่า 650 ที่แล้ว โดยลงทุนไปทั้งหมดกว่า 930 ล้านบาทเลยทีเดียว


ในส่วนของเทคโนโลยีนั้นทางศูนย์เค้าได้ใช้ Oracle Warehouse Management System ในการจัดการกับคลังสินค้าขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้พึ่งพาตรงส่วนนี้เต็มรูปแบบ แต่ใช้ควบคู่กับการจัดการแบบ Manual อย่างละครึ่งโดยเอาระบบส่วนนี้ช่วยในการหา Algorithm แบ่งสินค้าออกมาเป็นเปอร์เซนต์ กระจายไปตามสาขาต่่างๆ ที่ต้องการทั่วประเทศ และยังพึ่งพา Barcode reader ในการ input รายละเอียด และจำนวนสินค้าเข้าไปอีกด้วย ส่วนระบบนี้เค้าจะทำการส่งข้อมูลแบบ Online Real time ไปยังฐานข้อมูลระบบ โดยจะอัพเดท และตรวจสอบก่อน จาก ศูนย์กระจายสินค้าเอง ไปรวบรวมที่ สาขาใหญ่ และแจ้งผลสรุปอีกทีไปยัง ผู้ผลิต เป็นอันเสร็จ


ในส่วนการบริหารงานต่างๆ ต้องขอบอกเลยว่าค่อนข้างละเอียดอ่อน รวมไปผู้เข้าชมงานด้วยครับ โดยเฉพาะผู้เข้าชมงานเค้ากำชับเอาไว้เลยครับว่า ระหว่างเดิน ห้ามเดินจด และให้เดินไปเป็นกลุ่ม เพราะอาจเผลอทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยกของได้  ซึ่งถ้่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทางนี้จะมีหน่วยสืบสวนโดยจะมีการซักถามกันยาว และออกใบเตือน รวมไปถึงเขียนจดหมายไปยังบริษัทต้นสังกัดที่จัดทริปนี้ได้รับทราบอีกด้วย


ที่น่าสนใจอีกอย่างในนี้ก็คือ การวัดค่า KPI จาก ประสิทธิภาพของพนักงาน (พนักงาน/กลุ่ม, ลักษณะนิสัย) ในทั้งรายวัน และสัปดาห์ รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ได้ของผู้เข้าชมเอง โดยจะเอาผลที่ได้นี้ไปรายงานต่อหัวหน้าศูนย์ตลอด ซึ่งรายงานผลออกมาเป็นตัวเลข และจากนั้นส่งที่สาขาใหญ่ต่อ เพื่อที่จะเอาไปวัดค่าดูประสิทธิผลของงาน ในแต่ละช่วงได้อีกด้วย และอีกหนึ่งคือ Labor Intensive ซึ่งจะหมายถึงการเข้าหาพนักงาน ผู้ใช้แรงงาน โดยจะใกล้ชิดซึ่งกันและกัน ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง มากกว่าบริหารด้วยการชี้นิ้วสั่ง เพราะลูกจ้างส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก และละเอียดอ่อนต่อเรื่องอารมณ์ และความรู้สึกเป็นอย่างมากครับ


และปัญหาหลักของศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้กล่าวปัญหาออกมา คือ การขาดงานของพนักงานที่เป็น ผู้ใช้แรงงานเอง โดยจะขาดแบบขอลาไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะค่าแรงรายวัน ซึ่งถ้าขาดตรงส่วนนี้มากๆ ก็ส่งผลกระทบต่อการกระจายสินค้าอยู่เหมือนกันครับ


โดยภาพรวมแล้ว ตามที่เล่ามา ต้องขอบอกเลยครับว่าระบบของเค้านั้นดูเหมือนจะง่าย แต่ต้องละเอียดอ่อนกับตัวงานข้างในด้วย เพราะถ้าพลาด อาจหมายถึง Inadequate Supplies ซึ่งอาจส่งผลต่อสินค้าในสาขานั้นไม่เพียงพอ และทำให้ลูกค้า Complain ต่อมาเป็นทอดๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ขององค์กรอีกด้วย ... ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ พบกับกระผม นาย @chiisaii ได้ใหม่ในฉบับหน้า สวัสดีครับ :)

ไม่มีความคิดเห็น: